วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

แบบฝึกหัด

IOS



IOS (ก่อนหน้านี้ใช้ชื่อiphoneOS) คือระบบปฏิบัติการบนอุปกรณ์พกพา (สมาร์ตโฟน,แท็บเล็ตคอมพิวเตอร์) พัฒนาและจำหน่ายโดยแอปเปิล (บริษัท) เปิดตัวครั้งแรกในปี 2007 เพื่อใช้บนไอโฟน และได้มีการพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อใช้บนอุปกรณ์พกพาอื่นๆ ของแอปเปิล เช่น ไอพอดทัช (ในเดือนกันยายน 2007), ไอแพด (ในเดือนมกราคม 2010), ไอแพด มินิ (พฤศจิกายน 2012) และ แอปเปิลทีวีรุ่นที่ 2 (ในเดือนกันยายน 2010) ไอโอเอสแตกต่างจากวินโดวส์โฟนของไมโครซอฟท์และแอนดรอยด์ (ระบบปฏิบัติการ)ของกูเกิล ตรงที่แอปเปิลไม่อนุญาตให้นำไอโอเอสไปติดตั้งบนอุปกรณ์ที่ไม่ใช่อุปกรณ์ของแอปเปิล ในเดือนสิงหาคม 2013 แอปสโตร์ของแอปเปิลมีแอปพลิเคชันมากกว่า 900,000 แอปพลิเคชัน และ 375,000 ที่ออกแบบมาเพื่อ ไอแพด แอปพลิเคชันเหล่านี้มียอดดาวโหลดน์รวมกันมากกว่า 5 หมื่นล้านครั้ง ไอโอเอสมีส่วนแบ่ง 21% ของส่วนแบ่งระบบปฏิบัติการบนอุปกรณ์พกพาในไตรมาสที่ 4 ของปี 2012 ซึ่งเป็นรองจากแอนดรอยของกูเกิลเท่านั้น ในเดือนมิถุนายน 2012 ไอโอเอสมีส่วนแบ่งคิดเป็น 65% ของการบริโภคข้อมูลบนอุปกรณ์พกพา (ซึ่งรวมไอพอดทัช และ ไอแพด) ในกลางปี 2012 มีอุปกรณ์ไอโอเอสมากกว่า 410 ล้านเครื่องที่เปิดใช้งาน จากการอ้างอิงจากงานแถลงเปิดตัวต่อสื่อโดยแอปเปิลใน วันที่ 12 กันยายน 2012 มีอุปกรณ์ไอโอเอส 400 ล้านตัวที่จำหน่ายไปแล้วในเดือนมิถุนายน 2012

ไอโอเอสมีต้นกำเนิดมาจากแมคโอเอสเท็นซึ่งได้รากฐานมาจากดาร์วินและแอปพลิเคชันเฟรมเวริค์ต่างๆ ไอโอเอสคือรุ่นพกพาของแมคโอเอสเท็นที่ใช้บนคอมพิวเตอร์ของแอปเปิล

รุ่นหลักของไอโอเอสจะมีการเปิดตัวทุกๆ ปี ในปัจจุบันได้มีการปล่อยตัวไอโอเอส 9 ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุดในวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2558


ข้อแตกต่างคือIOSจะเน้นความง่ายเป็นหลักเพราะระบบมีความซับซ้อนน้อยมีบริการจากส่วนกลางเช่นiTunes,Game Center และ iCound ทุกอย่างอยู่ในหน้าHome Screenทำให้ง่ายต่อการจัดการ มีความเป็นหนึ่งเดียวของระบบหรือแค่บัญชีผู้ใช้บัญชีเดียวก็ใช้บริการได้เกือบทังหมด

...........................................................................................................................



Android

แอนดรอยด์ (อังกฤษ: Android) เป็นระบบปฏิบัติการที่มีพื้นฐานอยู่บนลินุกซ์ ในอดีตถูกออกแบบมาสำหรับอุปกรณ์ที่ใช้จอสัมผัสเช่นสมาร์ตโฟน และแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ ปัจจุบันได้แพร่ไปยังอุปกรณ์หลายชนิดเพราะเป็นมาตรฐานเปิด เช่น Nikon S800C กล้องดิจิตอลระบบแอนดรอยด์ หม้อหุงข้าว Panasonic ระบบแอนดรอยด์ และ Smart TV ระบบแอนดรอยด์ รวมถึงกล่องเสียบต่อ TV ทำให้สามารถใช้ระบบแอนดรอยด์ได้ด้วย Android Wear นาฬิกาข้อมือระบบแอนดรอด์ เป็นต้น ถูกคิดค้นและพัฒนาโดยบริษัท แอนดรอยด์ (Android, Inc.) ซึ่งต่อมา กูเกิล ได้ทำการซื้อต่อบริษัทในปี พ.ศ. 2548 แอนดรอยด์ถูกเปิดตัวเมื่อ ปี พ.ศ. 2550 พร้อมกับการก่อตั้งโอเพนแฮนด์เซตอัลไลแอนซ์ ซึ่งเป็นกลุ่มของบริษัทผลิตฮาร์ดแวร์, ซอฟต์แวร์ และการสื่อสารคมนาคม ที่ร่วมมือกันสร้างมาตรฐานเปิด สำหรับอุปกรณ์พกพา โดยสมาร์ตโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เครื่องแรกของโลกคือ เอชทีซี ดรีม วางจำหน่ายเมื่อปี พ.ศ. 2551


แอนดรอยด์เป็นระบบปฏิบัติการโอเพนซอร์ซ และกูเกิลได้เผยแพร่ภายใต้ลิขสิทธิ์อาปาเช ซึ่งโอเพนซอร์ซจะอนุญาตให้ผู้ผลิตปรับแต่งและวางจำหน่ายได้ รวมไปถึงนักพัฒนาและผู้ให้บริการเครือข่ายด้วย อีกทั้งแอนดรอยด์ยังเป็นระบบปฏิบัติการที่รวมนักพัฒนาที่เขียนโปรแกรมประยุกต์ มากมาย ภายใต้ภาษาจาวา ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2555 มีโปรแกรมมากกว่า 700,000 โปรแกรมสำหรับแอนดรอยด์ และยอดดาวน์โหลดจากกูเกิล เพลย์ มากถึง 2.5 หมื่นล้านครั้ง จากการสำรวจในช่วงเดือน เมษายน ถึง พฤษภาคม ในปี พ.ศ. 2556 พบว่าแอนดรอยด์เป็นระบบปฏิบัติการที่นักพัฒนาเลือกที่จะพัฒนาโปรแกรมมากที่สุด ถึง 71%

ส่วนแบ่งทางการตลาดของสมาร์ตโฟนแอนดรอยด์ นำโดยซัมซุง มากถึง 64% ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2556 เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2556 มีอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์มากถึง 11,868 รุ่น จาก 8 เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ความสำเร็จของระบบปฏิบัติการทำให้เกิดคดีด้านการละเมิดสิทธิบัตรที่เรียกกันว่า "สงครามสมาร์ตโฟน" (smartphone wars) ระหว่างบริษัทผู้ผลิต ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2556 โปรแกรม 4.8 หมื่นล้านโปรแกรมได้รับการติดตั้งบนอุปกรณ์จากกูเกิล เพลย์ และในวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 มีอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 1 พันล้านเครื่อง ได้ถูกเปิดใช้งาน

ข้อแตกต่างคือAndroid เหมือนคอมพิวเตอร์ ติดตั้งแอพจากไหนก็ได้ เชื่อมต่อแกับอุปกรณ์ภายนอกได้ง่าย (เสียบ USB กับคอมเครื่องไหนก็ได้) เข้าถึงไฟล์ต่างๆและปรับแต่งการตั้งค่าของเครื่องได้

...........................................................................................................................


Windows



Windows คือ ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ระบบหนึ่ง (operating system) สร้างขึ้นโดยบริษัทไมโครซอฟต์ เนื่องจากความยากในการใช้งานดอสทำให้บริษัทไมโครซอฟต์ได้มีการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่เรียกว่า Windows ที่มีลักษณะเป็น GUI (Graphic-User Interface) ที่นำรูปแบบของสัญลักษณ์ภาพกราฟิกเข้ามาแทนการป้อนคำสั่งทีละบรรทัด ซึ่งใกล้เคียงกับแมคอินทอชโอเอส เพื่อให้การใช้งานดอสทำได้ง่ายขึ้น แต่วินโดวส์จะยังไม่ใช่ระบบปฏิบัติการจริง ๆ เนื่องจากมันจะทำงานอยู่ภายใต้การควบคุมของดอสอีกที กล่าวคือจะต้องมีการติดตั้งดอสก่อนที่จะติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows และผู้ใช้จะสามารถเรียกใช้คำสั่งต่าง ๆ ที่มีอยู่ในดอสได้โดยผ่านทางWindows ซึ่ง Windows จะง่ายต่อการใช้งานมากกว่าดอส


Windows เปิดตัวเมื่อปี พ.ศ. 2528 (ค.ศ. 1985 โดยรุ่นแรกของวินโดวส์ คือ วินโดวส์ 1.0) และครองความนิยมในตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล มากกว่า 90% ของการใช้งานทั่วโลก

ข้อแตกต่างคือระบบปฏิบัติการ windows ใช้หลักการแบ่งงานเป็นส่วน เรียกว่า หน้าต่างงาน (windows) ที่แสดงผลลัพธ์แต่ละโปรแกรม ปัจจุบันมีการผลิตและจำหน่ายหลายรุ่น เช่น Windows XP , Windows Vista, Windows 7 เป็นต้น

...........................................................................................................................

Linux

ลีนุกซ์ เป็นระบบปฏิบัติการเช่นเดียวกับ ดอส ไมโครซอฟต์วินโดวส์ หรือยูนิกซ์ โดยลีนุกซ์นั้นจัดว่าเป็นระบบปฏิบัติการยูนิกซ์ประเภทหนึ่ง การที่ลีนุกซ์เป็นที่กล่าวขานกันมากขณะนี้ เนื่องจากความสามารถของตัวระบบปฏิบัติการและโปรแกรมประยุกต์ที่ทำงานบนระบบลีนุกซ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโปรแกรมในตระกูลของ GNU (GNU's Not UNIX) และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือระบบลีนุกซ์เป็นระบบปฏิบัติการประเภทฟรีแวร์ (Free Ware) คือไม่เสียค่าใช้จ่ายในการซื้อโปรแกรมระบบลีนุกซ์ตั้งแต่เวอร์ชั่น 4 นั้น สามารถทำงานได้บนซีพียูทั้ง 3 ตระกูล คือบนซีพียูของอิลเทล (PC Intel) ดิจิตอลอัลฟาคอมพิวเตอร์ (Digital Alpha Computer) และซันสปาร์ค (SUN SPARC) เนื่องจากใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า RPM (Red Hat Package Management) ถึงแม้ว่าในขณะนี้ลีนุกซ์ยังไม่สามารถแทนที่ไมโครซอฟต์ วินโดวส์ บนพีซีหรือแมคโอเอส (Mac OS) ได้ทั้งหมดก็ตาม แต่ผู้ใช้จำนวนไม่น้อยที่หันมาใช้และช่วยพัฒนาโปรแกรมประยุกต์บนลีนุกซ์กัน และเรื่องของการดูแลระบบลีนุกซ์นั้น ภายในระบบลีนุกซ์เองมีเครื่องมือช่วยสำหรับดำเนินการให้สะดวกยิ่งขึ้น

ข้อแตกต่างคือโดยส่วนมากแล้วผู้คนจะใช้ OS Linux ไปใช้ทำเซิฟเวอร์เพราะกินแรงเครื่องน้อย และเครื่องจะเสถียรกว่าการใช้ OS ทั่วไป และที่สำคัญก็คือ linux เป็น Solfware แบบ OpenSource ที่คุณสามารถ ดาว์นโหลดมาใช้ได้ฟรีๆ และปรับแต่งได้ตามต้องการ ด้วยเหตุนี้เองจึงทำ Linux ได้มีผู้นำไปพัฒนาจนกลายเป็นหลากหลาย ในเวลาต่อมา ทำให้มี OS มากมาย ที่แตกแขนงมาจาก Linux อาทิเช่น Ubuntu, Debian, Redhat, Slackware และอื่นอีกมากมายอย่างนับไม่ท้วน จนกลายเป็น Linux Distribution

...........................................................................................................................



DOS



ระบบปฏิบัติการดอสเป็นระบบปฏิบัติการที่ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ระดับไมโครคอมพิวเตอร์ การใช้งานระบบปฏิบัติการดอสนั้น ผู้ใช้ต้องพิมพ์คำสั่งลงไป เช่น ถ้าต้องการดูรายชื่อแฟ้มข้อมูลที่จัดเก็บอยู่บนฮาร์ดดิสก์ของเครื่องผู้ใช้ก็ต้องพิมพ์คำสั่งในการดูชื่อแฟ้มข้อมูลลงไประบบปฏิบัติการจึงจะทำงานในแต่ละคำสั่งนั้น

คำสั่งของระบบปฏิบัติการดอสแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ คำสั่งภายใน (internal command) และคำสั่งภายนอก (external command) คำสั่งภายใน คือ คำสั่งที่สามารถเรียกใช้งานได้ทันที เนื่องจากคำสั่งจะถูกเก็บไว้ในหน่วยความจำสำรอง ตั้งแต่เมื่อเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ขึ้นมา ส่วนใหญ่เป็นคำสั่งที่เรียกใช้งานบ่อย ๆ ตัวอย่างเช่น คำสั่งดูรายชื่อแฟ้มข้อมูล "dir" คำสั่งลบแฟ้มข้อมูล "del ตามด้วยชื่อแฟ้มข้อมูล" เป็นต้น



ข้อแตกต่างคือระบบปฏิบัติการในรูปแบบของตัวอักษร (Text Mode)


...........................................................................................................................









วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Windows Vista

2549–2551: Windows Vista—ประสิทธิภาพที่มาพร้อมความปลอดภัย




เดสก์ท็อป Windows Vista
เดสก์ท็อป Windows Vista
Windows Vista วางจำหน่ายในปี 2549 พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งที่สุด โดย User Account Control จะช่วยป้องกันซอฟต์แวร์ที่อาจเป็นอันตรายไม่ให้เปลี่ยนแปลงข้อมูลใดๆ ในเครื่องของคุณ ใน Windows Vista Ultimate การเข้ารหัสไดรฟ์ด้วย BitLocker สามารถให้การปกป้องข้อมูลที่ดีกว่าสำหรับคอมพิวเตอร์ของคุณ เนื่องจากยอดขายแล็ปท็อปและความต้องการด้านความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ Windows Vista ยังปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของ Windows Media Player ให้สอดคล้องกับจำนวนผู้ใช้ที่ใช้พีซีเป็นศูนย์รวมสื่อดิจิทัลที่เพิ่มมากขึ้น คุณจึงสามารถดูทีวี ดูและส่งภาพถ่าย และแก้ไขวิดีโอบนพีซีได้





Windows Vista Ultimate
Windows Vista Ultimate

การออกแบบเข้ามามีบทบาทสำคัญใน Windows Vista และคุณลักษณะต่างๆ เช่น รูปลักษณ์ใหม่ของแถบงานและเส้นขอบรอบหน้าต่าง การค้นหากลายเป็นคุณลักษณะใหม่ที่มีความสำคัญและช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาไฟล์บนพีซีของตนได้รวดเร็วขึ้น Windows Vista
นำเสนอโปรแกรมรุ่นใหม่ๆ ที่มีการผสมผสานของคุณลักษณะที่แตกต่างกัน โดยสามารถใช้งานได้ใน     35 ภาษา ปุ่ม 'เริ่ม' ที่ออกแบบใหม่ปรากฏเป็นครั้งแรกใน Windows Vista
เกร็ดน่าสนใจ: มีอุปกรณ์กว่า 1.5 ล้านชิ้นที่สามารถใช้งานร่วมกับ Windows Vista เมื่อเปิดตัว

Windows 7

2552: Windows 7 แนะนำ Windows Touch




เดสก์ท็อป Windows 7
เดสก์ท็อป Windows 7

Windows 7 ออกแบบมาสำหรับโลกในระบบไร้สายที่เกิดขึ้นในปลายปี 2543 แล็ปท็อปมียอดขายดีกว่าเดสก์ท็อปและกลายเป็นอุปกรณ์ที่นิยมใช้สำหรับเชื่อมต่อกับฮอตสปอตไร้สายสาธารณะตามร้านกาแฟและเครือข่ายส่วนตัวในบ้าน

Windows 7 มาพร้อมวิธีการใช้งานหน้าต่างแบบใหม่ เช่น Snap, Peek และ Shake ซึ่งช่วยปรับปรุงฟังก์ชันการทำงานและทำให้ใช้งานอินเทอร์เฟซได้สนุกมากยิ่งขึ้น และยังถือเป็นการเปิดตัว Windows Touch ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้หน้าจอสัมผัสสามารถท่องเว็บ พลิกดูภาพถ่าย รวมถึงเปิดไฟล์และโฟลเดอร์ได้




Windows 7
Windows 7
เกร็ดน่าสนใจ: Windows 7 รุ่นเบต้าผ่านการทดลองจากผู้ใช้ 8 ล้านคนทั่วโลกก่อนที่จะมีการวางจำหน่าย

Windows 8

2555: Windows 8 ประกอบด้วยแอปและไทล์





พีซีที่ใช้งาน Windows 8
พีซีที่ใช้งาน Windows 8



Windows 8 Pro
Windows 8 Pro

Windows 8 เป็นระบบปฏิบัติการที่สร้างสรรค์ใหม่ ตั้งแต่ชิปเซ็ตไปจนถึงประสบการณ์ผู้ใช้ และแนะนำส่วนติดต่อผู้ใช้รูปแบบใหม่ที่ทำงานได้อย่างราบรื่นสำหรับทั้งระบบสัมผัสและเมาส์และแป้นพิมพ์ โดยจะทำหน้าที่เป็นแท็บเล็ตเพื่อความบันเทิงและพีซีที่มีคุณลักษณะครบครันเพื่อให้การทำงานสำเร็จลุล่วง Windows 8 ยังประกอบด้วยส่วนปรับปรุงของเดสก์ท็อป Windows ที่คุ้นเคย พร้อมแถบงานใหม่และการจัดการไฟล์ที่ดีขึ้นกว่าเดิม

Windows 8 มาพร้อมหน้าจอเริ่มที่มีไทล์ซึ่งเชื่อมต่อกับบุคคล ไฟล์ แอป และเว็บไซต์ แอปต่างๆ จะดูโดดเด่นสะดุดตาและสามารถดาวน์โหลดได้อย่างสะดวกจากสถานที่ใหม่ นั่นก็คือ Windows Store ที่อยู่บนหน้าจอเริ่ม
นอกจากนี้ Microsoft ยังเปิดตัว Windows RT ที่ทำงานบนแท็บเล็ตและพีซีบางเครื่อง พร้อมกับ Windows 8 ด้วย Windows RT ออกแบบมาสำหรับอุปกรณ์พกพาแบบเพรียวบางที่มีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน และใช้แอปจาก Windows Store เท่านั้น นอกจากนี้ Windows RT ยังมาพร้อม Office ในตัวที่เหมาะสำหรับหน้าจอสัมผัสด้วย

เกร็ดน่าสนใจ: ผู้ใช้ระดับสูงจะสังเกตเห็นว่าการตรวจจับและแก้ไขข้อผิดพลาดในระบบไฟล์ของ Windows 8 สะดวกรวดเร็วขึ้นและรบกวนผู้ใช้น้อยลง

Windows 8.1

2556-2557: Windows 8.1 ขยายวิสัยทัศน์ของ Windows 8






แท็บเล็ตที่ใช้งาน Windows 8.1
แท็บเล็ตที่ใช้งาน Windows 8.1




Windows 8.1
Windows 8.1

Windows 8.1 ต่อยอดวิสัยทัศน์ของ Windows 8 เพื่อมอบคอลเลกชันแอปที่ทรงพลังและการเชื่อมต่อระบบคลาวด์บนอุปกรณ์ที่ยอดเยี่ยม รวมถึงสิ่งที่ผู้คนชื่นชอบเกี่ยวกับ Windows 8 พร้อมด้วยการปรับปรุงบางอย่าง

Windows 8.1 ผสานรวมวิสัยทัศน์ของ Microsoft ในเรื่องการสร้างสรรค์นวัตกรรมโดยอาศัยคำติชมของลูกค้าเกี่ยวกับ Windows 8 เพื่อจัดหาส่วนปรับปรุงต่างๆ และฟีเจอร์ใหม่ๆ เช่น ตัวเลือกเพิ่มเติมสำหรับการปรับแต่งหน้าจอเริ่มต้นโดยมีการซิงค์ระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งหมด ตัวเลือกในการบูตระบบไปยังเดสก์ท็อปโดยตรง, Bing Smart Search ที่ช่วยให้คุณพบสิ่งที่คุณกำลังค้นหาบนพีซีหรือเว็บ, ปุ่มเริ่มต้นสำหรับนำทางระหว่างเดสก์ท็อปและหน้าจอเริ่มต้น และตัวเลือกที่ยืดหยุ่นมากขึ้นสำหรับการดูหลายๆ แอปพร้อมกันบนหน้าจอเดียวหรือทุกหน้าจอ นอกจากนี้ยังมีแอปภายในใหม่ๆ หลายแอป เช่น Bing อาหารและเครื่องดื่ม, Bing สุขภาพและฟิตเนส และแอปอรรถประโยชน์ที่ยอดเยี่ยม เช่น รายการที่จะอ่าน เครื่องคิดเลข และนาฬิกาปลุก แอปดีๆ มากมายที่มีอยู่ใน Windows 8 กลับมาอีกครั้งและดีขึ้นกว่าเดิม ช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์ที่น่าเพลิดเพลินมากขึ้นตั้งแต่ต้น
นอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลงประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้Windows 8.1 ยังประกอบด้วยคุณลักษณะใหม่ๆ ที่ผ่านการปรับปรุงแล้ว เช่น โฟลเดอร์รวมที่ทำงานและโฟลเดอร์งานที่ช่วยให้อุปกรณ์ Windows เชื่อมต่อกับทรัพยากรภายในองค์กรได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
ดังกล่าวแล้ว
เกร็ดน่าสนใจ: ผู้ใช้ระดับสูงที่มีหลายจอภาพจะสามารถแสดงแอปจาก Windows Store ได้สูงสุดสี่แอปต่อหน้าจอบนแต่ละจอภาพที่เชื่อมต่อกับพีซี

Windows 10

2015: Windows 10 Windows รุ่นที่ดีที่สุดที่เคยมีมา





หน้าจอเริ่มของ Windows 10
หน้าจอเริ่มต้นของ Windows 10

Windows 10 ออกมาให้ใช้ก่อนในปี 2015 แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ Microsoft ช่วยให้ผู้สนใจสามารถใช้งานระบบปฏิบัติการรุ่นแรกๆ ได้ผ่านทางโปรแกรม Windows Insider โดยเชิญชวนให้ลูกค้าร่วมพัฒนาและสร้างสรรค์อนาคตของ Windows 10 ซึ่งทำให้อุปกรณ์ทั่วโลกเชื่อมต่อได้อย่างเหนือชั้นและแชร์เนื้อหาได้อย่างรวดเร็วในระดับที่ไม่มีใครเทียบได้ อีกทั้งWindows 10 ยังช่วยให้ทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นและน่าพึงพอใจ

โปรแกรม Windows Insider มีบทบาทสำคัญที่ทำให้ Windows 10 ใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยม Insider จะสำรวจและตอบสนองกับรุ่นตัวอย่าง ซึ่งหมายความว่า Microsoft สามารถพัฒนาโซลูชันเพื่อตอบสนองต่อคำติชมที่ส่งมาโดยตรงจากผู้บริโภคที่ใช้ Windows ทุกวัน


การใช้งานที่ฉีกออกจากกฎ


นี่เป็นครั้งแรกที่ Windows มอบการอัปเกรดฟรีให้แก่ลูกค้า เพียงเดือนเดียวหลังจากเปิดให้ใช้งาน มีอุปกรณ์ถึง 75 เครื่องที่ใช้ Windows 10 Microsoft หวังจะได้เห็น Windows 10 ติดตั้งในอุปกรณ์หนึ่งพันล้านเครื่องในปี 2018
ระบบปฏิบัติการนี้มีส่วนติดต่อ Windows ที่อัปเกรดแล้ว โดยจะเน้นเมนูเริ่มซึ่งมีลักษณะเป็นไอคอนและสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ควบคุมได้ง่ายจากเมนูเริ่ม Windows 10 แนะนำเสียงใหม่จาก Microsoft ที่สามารถสนทนาโต้ตอบและเข้าถึงได้มากยิ่งขึ้นกว่าเมื่อก่อน Cortana ซึ่งเป็นผู้ช่วยส่วนบุคคลแบบดิจิทัลคนแรกของ Microsoft ได้มาปรากฏตัวเป็นครั้งแรกบนพีซีที่ใช้งาน Windows 10 แล้วหลังจากที่ประสบความสำเร็จในการเปิดตัวบนโทรศัพท์Windows 8.1 Cortana สร้างประสบการณ์การใช้งานที่ปรับให้เป็นแบบส่วนตัวที่นำไปใช้ทั้งในพีซี แท็บเล็ต และโทรศัพท์ Windows โดยอาศัยการเรียนรู้จากพฤติกรรมการใช้งานและการกำหนดลักษณะของแต่ละคนที่เธอโต้ตอบด้วย เธอเป็นผู้ช่วยที่ฉลาด รอบรู้ และเป็นก้าวที่สำคัญบนหนทางแห่งการพัฒนา Windows ให้มีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ Windows 10 ยังแนะนำการใช้งาน Windows ในรูปแบบบริการอีกด้วย ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงจากการเปิดให้ใช้งานขนานใหญ่ซึ่งกินเวลานาน มาเป็นการปรับปรุงที่บ่อยและเป็นแบบอัตโนมัติแทน Windows 10 ค้นหาหนทางเพื่อค่อยๆ พัฒนาและปรับปรุงคุณภาพชีวิตของมนุษย์อย่างไม่หยุดยั้ง

เกร็ดน่าสนใจ: Cortana รองรับการใช้งานได้หกภาษาในตอนที่เปิดให้ใช้งาน โดยแต่ละภาษาเกิดขึ้นจากทีมผู้เขียนซึ่งเป็นเจ้าของภาษาโดยเฉพาะเพื่อให้มั่นใจว่าการแปลบุคลิกและมุขตลกของ Cortana ถ่ายทอดออกมาได้เหมาะสมตามวัฒนธรรม

Windows XP

2544–2548: Windows XP—ความเสถียร ความพร้อมใช้งาน และความรวดเร็ว













เดสก์ท็อป Windows XP Home Edition
เดสก์ท็อป Windows XP Home Edition

เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2544 มีการวางจำหน่าย Windows XP โฉมใหม่ ซึ่งเน้นไปที่ฟังก์ชันที่สามารถใช้งานได้จริงและศูนย์รวมข้อมูลความช่วยเหลือและวิธีใช้แบบครบวงจร โดยสามารถใช้งานได้ใน 25 ภาษา นับแต่ช่วงกลางปี 2513 จนถึงการวางจำหน่าย Windows XP มีพีซีประมาณ 1 พันล้านเครื่องทั่วโลกที่ติดตั้งโปรแกรมนี้

สำหรับ Microsoft ระบบปฏิบัติการ Windows XP กำลังจะกลายเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ขายดีอันดับหนึ่งในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ ด้วยความรวดเร็วและความเสถียรของระบบ การเข้าออกเมนู 'เริ่ม' แถบงาน และแผงควบคุมสามารถทำงานได้ง่ายขึ้น มีการตื่นตัวเรื่องไวรัสคอมพิวเตอร์และแฮกเกอร์มากขึ้น แต่ก็มีการเปิดให้ดาวน์โหลดอัปเดตระบบความปลอดภัยทางออนไลน์ซึ่งช่วยลดความกลัวได้ระดับหนึ่ง ผู้ใช้เริ่มเข้าใจถึงคำเตือนเกี่ยวกับเอกสารแนบที่น่าสงสัยและไวรัส และเริ่มเห็นความสำคัญของบริการช่วยเหลือและวิธีใช้มากขึ้น












กล่อง Windows XP Professional
กล่อง Windows XP Professional

Windows XP Home Edition มีการออกแบบด้านภาพให้ดูสบายตาและเรียบง่าย ทำให้สามารถเข้าถึงคุณลักษณะที่ใช้งานบ่อยได้ง่ายขึ้น Windows XP ที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานภายในบ้านมาพร้อมการปรับปรุงในส่วนต่างๆ เช่น Network Setup Wizard, Windows Media Player, Windows Movie Maker และความสามารถด้านภาพถ่ายดิจิทัลขั้นสูง

Windows XP Professional นำรากฐานที่แข็งแกร่งของ Windows 2000 มาเพิ่มความเสถียร ความปลอดภัย และประสิทธิภาพการทำงานให้กับพีซีเดสก์ท็อป นอกเหนือจากรูปลักษณ์ใหม่แล้ว Windows XP Professional ยังมาพร้อมคุณลักษณะต่างๆ สำหรับการใช้งานคอมพิวเตอร์ในธุรกิจและการใช้คอมพิวเตอร์ขั้นสูงที่บ้าน การสนับสนุนเดสก์ท็อประยะไกล การเข้ารหัสระบบไฟล์ รวมถึงคุณลักษณะการคืนค่าระบบและการเชื่อมต่อเครือข่ายขั้นสูงด้วย การปรับปรุงที่สำคัญสำหรับผู้ใช้คอมพิวเตอร์แบบพกพา ได้แก่ การสนับสนุนเครือข่ายไร้สาย 802.1x, Windows Messenger และ Remote Assistance

มี Windows XP หลายรุ่นในช่วงปีเหล่านี้
  • Windows XP รุ่น 64 บิต (2001) เป็นระบบปฏิบัติการรุ่นแรกของ Microsoft สำหรับตัวประมวลผล 64 บิตที่ออกแบบมาสำหรับการทำงานกับหน่วยความจำขนาดใหญ่และโปรเจ็กต์ต่างๆ เช่น ลักษณะพิเศษของภาพยนตร์ ภาพเคลื่อนไหวสามมิติ โปรแกรมทางวิศวกรรมและวิทยาศาสตร์
  • Windows XP Media Center Edition (2002) เหมาะสำหรับการใช้งานและการให้ความบันเทิงภายในบ้าน คุณสามารถท่องอินเทอร์เน็ต ดูรายการสด เพลิดเพลินกับคอลเลกชันเพลงและวิดีโอดิจิทัล และดูดีวีดีได้
  • Windows XP Tablet PC Edition (2002) เป็นระบบปฏิบัติการสำหรับคอมพิวเตอร์ที่รับข้อมูลแบบลายมือ แท็บเล็ตพีซีจะมีปากกาดิจิทัลที่ใช้ร่วมกับระบบการจดจำลายมือ นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้เมาส์หรือแป้นพิมพ์ได้ด้วย
เกร็ดน่าสนใจ: Windows XP เกิดจากการคอมไพล์โค้ดจำนวน 45 ล้านบรรทัดเข้าด้วยกัน

Windows 98, Windows 2000

2541–2543: Windows 98, Windows 2000, Windows Me—Windows ได้รับการพัฒนาเพื่อการทำงานและเล่นสนุก





เดสก์ท็อป Windows 98
เดสก์ท็อป Windows 98





Windows 98
Windows 98

Windows 98


Windows 98 ที่วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2541 เป็น Windows เวอร์ชันแรกที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับผู้ใช้ทั่วไป พีซีกลายเป็นอุปกรณ์ที่พบได้ทั่วไปในที่ทำงาน ที่บ้าน และร้านอินเทอร์เน็ตที่คุณสามารถออนไลน์ได้ก็ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด Windows 98 ได้รับการขนานนามว่าเป็นระบบปฏิบัติการที่ “ทำงานก็ได้ เล่นก็ดี”
Windows 98 ช่วยให้คุณสามารถค้นหาข้อมูลบนพีซีของคุณและบนอินเทอร์เน็ตได้ง่ายขึ้น การปรับปรุงอื่นๆ ได้แก่ ความสามารถในการเปิดและการปิดโปรแกรมที่รวดเร็วขึ้น และการสนับสนุนการอ่านแผ่นดีวีดีและอุปกรณ์ Universal Serial Bus (USB) อีกสิ่งหนึ่งที่ปรากฏเป็นครั้งแรกก็คือ แถบ 'เปิดใช้งานด่วน' ซึ่งช่วยให้คุณสามารถเปิดโปรแกรมได้โดยไม่ต้องเปิดเมนู 'เริ่ม' หรือค้นหาโปรแกรมบนเดสก์ท็อป
เกร็ดน่าสนใจ: Windows 98 เป็นเวอร์ชันสุดท้ายที่สร้างจาก MS‑DOS





สัมผัสประสบการณ์การรับชมสื่อผ่าน Windows¤Me
สัมผัสประสบการณ์การรับชมสื่อผ่าน Windows Me

Windows Me

Windows Me ที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานภายในบ้านมีการปรับปรุงคุณลักษณะเกี่ยวกับเพลง วิดีโอ และเครือข่ายภายในบ้านจำนวนมาก รวมถึงปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานให้มีความเสถียรมากขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
สิ่งที่ปรากฏเป็นครั้งแรก ได้แก่ System Restore ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่สามารถย้อนการกำหนดค่าซอฟต์แวร์พีซีของคุณกลับไปยังวันที่หรือเวลาก่อนที่จะเกิดปัญหาได้ Movie Maker ทำให้ผู้ใช้มีเครื่องมือที่สามารถแก้ไข บันทึกและแบ่งปันวิดีโอภาพครอบครัวในแบบดิจิทัล และด้วยเทคโนโลยี Microsoft Windows Media Player 7 คุณจึงสามารถค้นหา จัดระเบียบ และเล่นสื่อดิจิทัลได้
เกร็ดน่าสนใจ: หากจะพูดกันในเชิงเทคนิค Windows Me ถือเป็นระบบปฏิบัติการสุดท้ายของ Microsoft ที่ใช้โค้ดของ Windows 95 เป็นพื้นฐาน Microsoft ประกาศว่าผลิตภัณฑ์ระบบปฏิบัติการทั้งหมดในอนาคตจะทำงานบนเคอร์เนล Windows NT และ Windows 2000





Windows 2000 Professional
Windows 2000 Professional

Windows 2000 Professional

Windows 2000 Professional ไม่ได้เป็นเพียงแค่การอัปเกรดจาก Windows NT Workstation 4.0 เท่านั้น แต่ยังออกแบบมาเพื่อแทนที่ Windows 95, Windows 98 และ Windows NT Workstation 4.0 ที่อยู่บนเดสก์ท็อปและแล็ปท็อปสำหรับธุรกิจทั้งหมด Windows 2000 สร้างโดยใช้โค้ด Windows NT Workstation 4.0 ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ายอดเยี่ยมเป็นพื้นฐาน และมีการปรับปรุงด้านความเสถียร ความสะดวกในการใช้งาน ความสามารถในการใช้งานอินเทอร์เน็ต และรองรับการใช้งานบนคอมพิวเตอร์แบบพกพา
นอกจากจะปรับปรุงการทำงานในส่วนต่างๆ แล้ว Windows 2000 Professional ยังรองรับฮาร์ดแวร์ Plug and Play แบบใหม่หลายชนิด รวมถึงผลิตภัณฑ์การเชื่อมต่อเครือข่ายและระบบไร้สายขั้นสูง อุปกรณ์ USB อุปกรณ์ IEEE 1394 และอุปกรณ์อินฟราเรด ซึ่งช่วยให้การติดตั้งฮาร์ดแวร์เป็นเรื่องง่าย






เกร็ดน่าสนใจ: การทดสอบที่กดดันทุกคืนของ Windows 2000 ในระหว่างการพัฒนาเทียบได้กับเวลาการทำงานสามเดือนบนคอมพิวเตอร์ 1,500 เครื่อง

Windows 95

2538–2541: Windows 95—พีซีเติบโตเต็มที่ (และที่ลืมไม่ได้เลยคือ อินเทอร์เน็ต)





เดสก์ท็อป Windows 95
เดสก์ท็อป Windows 95

ในวันที่ 24 สิงหาคม 2538 Microsoft ได้ออกวางจำหน่าย Windows 95 ซึ่งสามารถสร้างสถิติทำยอดขายได้ถึง 7 ล้านสำเนาในช่วงห้าสัปดาห์แรก นับเป็นการเปิดตัวที่ได้รับการกล่าวขานถึงมากที่สุดที่ Microsoft เคยทำมา สปอตโฆษณาทางโทรทัศน์ใช้เพลงของ Rolling Stones ที่ชื่อว่า "Start Me Up" ในการนำเสนอปุ่ม 'เริ่ม' ซึ่งเป็นปุ่มใหม่ ข่าวประชาสัมพันธ์พาดหัวขึ้นต้นว่า: “อยู่นี่ไง”

นี่คือยุคของแฟกซ์/โมเด็ม อีเมล โลกออนไลน์แบบใหม่ และเกมมัลติมีเดียที่ละลานตาและซอฟต์แวร์ทางการศึกษา Windows 95 มีการสนับสนุนอินเทอร์เน็ตในตัว การเชื่อมต่อเครือข่ายผ่านสายโทรศัพท์ และความสามารถใหม่ Plug and Play ที่ทำให้ติดตั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ ระบบปฏิบัติการแบบ 32 บิตยังมาพร้อมความสามารถด้านมัลติมีเดียขั้นสูง คุณลักษณะสำหรับคอมพิวเตอร์แบบพกพาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และการเชื่อมต่อเครือข่ายแบบครบวงจร





Bill Gates แนะนำ Windows 95 ในวันเปิดตัว
วันเปิดตัว: Bill Gates แนะนำ Windows 95


ในช่วงเวลาที่มีการวางจำหน่าย Windows 95 ระบบปฏิบัติการ Windows รุ่นก่อนหน้าและ MS‑DOS มีการใช้งานอยู่ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ของพีซีที่มีอยู่ในโลก Windows 95 เป็นการปรับรุ่นให้กับระบบปฏิบัติการเหล่านี้ เมื่อต้องการเรียกใช้ Windows 95 คุณจำเป็นต้องมีพีซีที่มีตัวประมวลผล 386DX หรือที่สูงกว่า (ขอแนะนำ 486) และมี RAM อย่างน้อย 4 MB (ขอแนะนำ RAM 8 MB) เวอร์ชันอัปเกรดมีทั้งในรูปแบบฟลอปปีดิสก์และซีดีรอม โดยสามารถใช้งานได้ใน 12 ภาษา

Windows 95 เป็นเวอร์ชันแรกที่มีเมนู 'เริ่ม' แถบงาน ปุ่มย่อ ปุ่มขยาย และปุ่มปิดบนแต่ละหน้าต่าง





Windows 95
Windows 95

การจับกระแสอินเทอร์เน็ต

ในช่วงต้นปี 2533 ผู้ที่อยู่ในแวดวงเทคโนโลยีพูดถึงอินเทอร์เน็ตซึ่งเป็นเครือข่ายที่ประกอบขึ้นด้วยเครือข่ายต่างๆ ที่มีความสามารถในการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ทั่วโลก ในปี 2538 Bill Gates ได้ออกบทความที่ชื่อว่า “The Internet Tidal Wave” และประกาศว่าอินเทอร์เน็ตเป็น “การพัฒนาที่สำคัญที่สุดตั้งแต่พีซีถือกำเนิดขึ้น”
ในฤดูร้อน ปี 2538 มีการออก Internet Explorer รุ่นแรก เบราว์เซอร์นี้ออกมาเพื่อร่วมประชันกับเบราว์เซอร์อื่นๆ ที่มีอยู่บน World Wide Web
เกร็ดน่าสนใจ: ในปี 2539 Microsoft วางจำหน่ายโปรแกรมจำลองการบินสำหรับ Windows 95 นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 14 ปี ที่สามารถใช้งานกับ Windows ได้

Windows 3.0

2533–2537: Windows 3.0–Windows NT—เริ่มรองรับกราฟิก





เดสก์ท็อป Windows 3.0
เดสก์ท็อป Windows 3.0

Windows 3.0

ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2533 Microsoft ได้ประกาศเปิดตัว Windows 3.0 และตามมาด้วย Windows 3.1 ในปี 2535 เมื่อนับรวมกัน ทั้งสองรุ่นสามารถขายได้ 10 ล้านสำเนาในระยะเวลาสองปีแรก ทำให้ระบบปฏิบัติการ Windows เป็นระบบปฏิบัติการที่มีการใช้กันแพร่หลายมากที่สุด ความสำเร็จนี้ทำให้ Microsoft กลับมาคิดทบทวนแผนการก่อนหน้านี้อีกครั้ง หน่วยความจำเสมือนช่วยปรับปรุงกราฟิกการแสดงผล ในปี 2533 Windows เริ่มมีลักษณะเหมือนกับรุ่นที่ใช้งานกันอยู่
Windows ในตอนนี้ มีพัฒนาการด้านประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้นมาก มีกราฟิกขั้นสูง 16 สี และไอคอนที่ปรับปรุงใหม่ คลื่นลูกใหม่ของพีซี 386 ช่วยให้ Windows 3.0 เป็นที่นิยมมากขึ้น ด้วยตัวประมวลผล Intel 386 ผู้ใช้จึงสามารถเรียกใช้โปรแกรมได้เร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มีการเพิ่ม Program Manager, File Manager และ Print Manager เข้ามาใน Windows 3.0




Bill Gates โชว์ Windows 3.0 รุ่นที่วางจำหน่ายล่าสุด
Bill Gates โชว์ Windows 3.0 รุ่นที่วางจำหน่ายล่าสุด


มีการติดตั้งซอฟต์แวร์ Windows โดยใช้ฟลอปปีดิสก์ที่อยู่ในกล่องขนาดใหญ่ซึ่งมาพร้อมคู่มือการใช้งานเล่มหนา

ความนิยมของ Windows 3.0 เติมโตพร้อมกับการวางจำหน่าย Windows software development kit (SDK) ใหม่ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์มุ่งเน้นไปที่การเขียนโปรแกรมมากขึ้นและใช้เวลาในการเขียนโปรแกรมควบคุมอุปกรณ์น้อยลง

Windows มีการใช้งานในที่ทำงานและที่บ้านมากขึ้นเรื่อยๆ และตอนนี้ยังมีเกมต่างๆ เช่น Solitaire, Hearts และ Minesweeper โดยมีการโฆษณาว่า “ตอนนี้คุณสามารถใช้ความสามารถอันน่าทึ่งของ Windows 3.0 เพื่อลดภาระของคุณได้แล้ว”
Windows สำหรับ Workgroups 3.11 ได้เพิ่มเวิร์กกรุ๊ปแบบเพียร์ทูเพียร์และการสนับสนุนเครือข่ายโดเมน และเป็นครั้งแรกที่พีซีกลายเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ไคลเอ็นต์/เซิร์ฟเวอร์ที่เกิดใหม่


Windows NT

เมื่อ Windows NT ออกวางจำหน่ายในวันที่ 27 กรกฎาคม 2536 Microsoft ได้มาถึงช่วงเวลาที่สำคัญ นั่นคือ โปรเจ็กต์ที่เริ่มมาตั้งแต่ปลายทศวรรษ 1980 เพื่อสร้างระบบปฏิบัติการใหม่ขั้นสูงตั้งแต่เริ่มต้นเสร็จสมบูรณ์แล้ว "Windows NT แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงรากฐานของวิธีการที่บริษัทต่างๆ สามารถใช้จัดการกับความต้องการด้านคอมพิวเตอร์ของธุรกิจได้ไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน" Bill Gates กล่าวไว้เมื่อผลิตภัณฑ์ออกวางจำหน่าย
ซึ่งแตกต่างจาก Windows 3.1 อย่างไรก็ตาม Windows NT 3.1 เป็นระบบปฏิบัติการแบบ 32 บิต ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มธุรกิจเชิงกลยุทธ์ที่รองรับโปรแกรมทางวิศวกรรมและวิทยาศาสตร์ระดับสูง
เกร็ดน่าสนใจ: แต่เดิมมีการเรียกกลุ่มที่พัฒนา Windows NT ว่าทีม "ระบบพกพา"